เทคนิคการเล่นคู่
1.กดลูกตำไว้เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงจากการตกเป็นฝ่ายรับ ผู้เล่นจะต้องไม่โยนลูกโด่งกลับไปอย่างพร่ำเพรื่อความสามารถในการตอบโต้กลับ ไปด้วยลูกดาด หรือหยอดทิ้งลูกไว้ให้อีกฝ่ายหนึ่งงต้องงัดลูกโด่งกลับมา จึงเป็นชั้นเชิงการเล่นที่ขาดไม่ได้ในการเล่นคู่ เกมการตอบโต้มีอัตราความเร็วสูงทั้งสองฝ่ายต่างพยายามใช้ลูกพุ่ง หรือกดลูกให้ลงต่ำเพื่อครองความเป็นฝ่ายรุก ลูกโยนที่คู่ต่อสู้โด่งข้ามมา จะต้องตอบโต้ด้วยลูกที่กดลงต่ำเสมอ เช่นลูกตบ ลูกแตะหยอด ถ้าเป็นลูกที่ตบไม่ถนัดให้กดลูกพุ่งลงต่ำเอาไว้ เพราะอย่างน้อยที่สุดฝ่ายตรงข้ามจะไม่สามารถใช้ลูกรุนแรงตอบโต้มาได้ ถ้าผู้เล่นตีลูกในระดับสูง และเข้าประชิดลูกได้เร็วเท่าใด โอกาสที่รักษาความเร็วเป็นฝ่ายรุกชนะจะมีมากเท่านั้น
2.การสอดลูกของมือหลังในขณะที่คู่ขากำลังเสิร์ฟลูก ผู้เล่นที่อยู่ด้านหลังควรยืนคร่อมเส้นกลาง พร้อมทั้งคุมเชิงลูกที่ฝ่ายตรงข้ามจะตีข้ามมา ลูกที่ผ่านมือคู่ขา จะตกเป็นหน้าที่ของมือหลังที่จะสอดรับลูกแต่ผู้เดียว โดยการตอบโต้ลูกไปสู่เป้าหมายที่อีกฝ่ายหนึ่งจะทำอันตรายให้แก่ฝ่ายตนน้อย ที่สุด อาจจะเป็นการกระดิกหยอดลูกไปสู่มุมที่ปลอดคน อาจจะเป็นการสวนตอบด้วยลูกดาดที่ผ่านพ้นมือหน้าของฝ่ายตรงข้าม ถ้าเป็นกรณีที่คู่ขาเสียหลัก ก็อาจตอบโต้เป็นลูกโยนโด่งกลับไปให้ถึงส่วนหลังของสนาม เพื่อให้คู่ขากลับทรงตัวใหม่ โดยยอมตกเป็นฝ่ายรับชั่วคราว ในขณะที่คู่ขากำลังรับลูก ผู้เล่นมือหลังไม่ควรยืนคร่อมเส้นกลางเป็นอันขาด เพราะจะเป็นการกีดขวางการตีลูกของคู่ขา ยิ่งถ้าเป็นลูกที่ฝ่ายตรงข้ามส่งมาทางแบ็ดแฮนด์ของผู้รับ การยืนคร่อมเส้นกลางของผู้เล่นฝ่ายหลังจะทำให้การตีลูกอ้อมศีรษะของคู่ขาไม่ สะดวก ผู้เล่นฝ่ายหลังควรยืนค่อนไปด้านข้างเล็กน้อย
3.ลูกดาบสอง การเล่นคู่ท่านจะใช้กำลังเข้าหักโหมทำคะแนนมิสามารถทำได้เสมอไป แต่จะต้องอาศัยการหลอกล่อด้วยลูกต่างๆจนฝ่ายตรงข้ามเสียทีเพลี่ยงพล้ำเสีย หลัก จึงจะใช้ลูกเด็ดขาดเผด็จศึกได้ ลูกโยนที่ฝ่ายตรงข้ามโด่งข้ามมา จะใช้ลูกตบเพื่อยุติการตอบโต้เพียงไม้เดียวย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก (เว้นแต่ฝ่ายตรงข้ามไม่มีความเหนียวแน่นในการรับลูกตบเลย) การทำคะแนนจึงต้องมีความอดทนที่จะใช้ลูกต่างๆสลับกัน และใช้ชั้นเชิงหลอกล่อจนฝ่ายตรงข้ามเสียเปรียบ เช่นส่งลูกไม่ถึงหลัง คราวนี้นี้ผู้เล่นจะช่วยกันซ้ำดาบสอง การซ้ำดาบสองถือว่าเป็นวินาทีทอง ผู้เล่นที่มีหน้าที่ ซ้ำดาบสอง ส่วนมากจะคุมเชิงอยู่บริเวณระหว่างเส้นส่งลูกสั้น กับเส้นกลาง ให้ชูไม้ในระดับสูงไว้ ถ้าคู่ขาตบลูกจากซีกขวาของสนามจุดที่ซ้ำดาบสองควรยืนค่อนไปทางซ้ายเล็กน้อย เพื่อป้องกันมิให้อีกฝ่ายหนึ่งสาดด้วยลูกดาดสวนตอบแบบทแยงสนามได้
4.การเลือกเป้าหมาย การเลือกเป้าหมายในการเล่นคู่ และเล็งตีลูกไปนั้นควรเป็นมุมที่สามของผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม หรือที่เรียกว่าบ่อน้ำมันไม่ว่าจะเป็นลูกหยอด ลูกดาด ลูกตบก็ตาม ยกตัวอย่าง คู่ที่ใช้ระบบหน้า-หลัง มุมที่สามจะได้แก่บริเวณด้านข้างของสนาม ตีลูกไปสู่มุมใดมุมหนึ่งจะเป็นจุดที่ห่างไกลจากตัวคู่ต่อสู้ทั้งสองมากที่สุด ส่วนคู่ที่ใช้ระบบคนละข้าง มุมที่สามจะได้แก่กึ่งกลางหน้าตาข่าย หรือกึ่งกลางด้านหลัง การหยอดแตะลงกึ่งกลางสนามทำให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดการลังเลเกี่ยงกันรับลูก ดังนั้นเป้าหมายการเล่นคู่คือมุมที่สามระหว่างคู่ต่อสู้เสมอ
5.อย่าเอาแต่ใจตนเอง การเล่นคู่จะต้องคำนึงถึงคู่ขาเสมอ อย่าคิดเอาแต่ตัวรอดแต่ฝ่ายเดียว การตีลูกทุกครั้งต้องคำนึงถึงความได้เปรียบเสียเปรียบของคู่ขาเราเสมอ ซึ้งคู่ขาเราก็ต้องมีความคิดเช่นเดียวกัน
6.จังหวะการตีลูก การ ตีลูก ผู้เล่นต้องเหยียดแขนให้ตรง แรงตีลูกที่มาจากแหล่งต่างๆจะไหลสู่ปลายแขน ผ่านแร็กเก็ตและกระทบลูกด้วยความเด็ดขาด แบดมินตันเป็นเกมที่ท่านควรตีลูกที่อยู่ข้างหน้าเสมอ พยายามพาตัวเองไปสู่จุดที่ลูกลอยมาด้านหน้า หลีกเลี่ยงการหงายตัวตีลูกที่เลยไปข้างหลัง เว้นแต่สุดวิสัยเท่านั้น การตีลูกที่อยู่ข้างหน้า ท่านจะไม่เสียหลักการทรงตัว สามารถมองเห็นเป้าหมาย การเคลื่อนไหวหรือตำแหน่งที่ยืนของคู่แข่งขันได้ถนัด ท่านควรเป็นฝ่ายวิ่งเข้าหาลูกทุกครั้ง อย่า คอยให้ลูกเป็นฝ่ายวิ่งมาหา ถ้าท่านวิ่งเข้าประชิดตีลูกได้เร็วเท่าใด ก็เท่ากับบีบบังคับให้คู่แข่งขันมีเวลาเตรียมตัวหรือหลับทรงตัวได้น้อยเท่า นั้น การวิ่งเข้าหาลูก ช่วยให้ท่านตีลูกในระดับสูง ทำให้เลือกมุมตีได้มากและกว้างกว่า มีเวลาพอที่จะเล่นลูกสองจังหวะ ซึ่งเป็นลูกหลอกที่สำคัญในการเล่นแบด การวิ่งเข้าตีลูกในระดับสูง ยังช่วยย่นระยะทางวิ่งระหว่างจุดตีลูกกับเป้าหมายที่ท่านตั้งใจจะวางลูกให้ หดสั้นลงครั้งละหลายๆฟุต เมื่อระยะทางวิ่งของลูกหดสั้นลง การกำหนดแรงตีและบังคับลูก ย่อมกระทำได้ง่ายเห็นผลยิ่งขึ้น ทำให้การตีลูกเกิดความแม่นยำและแน่นอนเพิ่มขึ้น
ขอบคุณมากคับเพื่อนๆสมาชิก อาจารย์เจริญ วรรธนะสินท่านเขียนบรรยายไว้ทุกแง่ทุกมุมครับ ปัจจุบันหาตำราแบบนี้ไม่มีแล้วคับผม นอกจากนี้ท่านยังเป็นบุคคลที่ทุ่มเทกำลังกาย-กำลังใจให้นักกีฬาแบดมินตันไทย ทุกคนเกียรติประวัติของท่านเด็กไทยรุ่นหลังอาจจะยังไม่ทราบ ขอ ยกตัวอย่างรางวัลเกียรติยศที่ท่านอาจารย์ได้รับระดับโลกเช่นแชมป์ชายเดียว -ชายคู่วิมเบิลดัน 2502 รองแชมป์ชายเดี่ยวออลอิงแลนด์ 2503,2504(สมัยนั้นถือว่าเป็นการแข่งขันชิงแชมป์โลกเลยทีเดียว) ผมขอยกตัวอย่างโดยสังเขปเท่านั้น ท่านอาจารย์เป็นแชมป์ทั้งชายเดียว-ชายคู่หลายรายการโดยเฉพาะในภาคพื้นยุโรปครับ
และเรามาติดตามชั้นเชิงในการเล่นคู่กันต่อคับ
7.การส่งลูก นิยมส่งลูกเลียดข้ามตาข่ายมากกว่าส่งลูกโยนหลัง การส่งลูกต่ำเลียดตาข่าย ให้ใช้แรงผลักหรือตวัดของข้อมือมากกว่าใช้แรงตี ความแน่นอนของลูกอยู่ที่จังหวะความชำนาญของการฝึกฝนจนเชื่องมือมากกว่าใช้ การเล็ง ลูกจะพุ่งตรงไปยังตาข่าย พอพ้นขอบตาข่าย แรงจะสิ้นสุดลง หัวลูกปักลงต่ำทันที และจะต้องไม่สั้นกว่าเส้นส่งลูกสั้นแต่ก็ไม่เลยจนเกินไป เป้าหมายการส่งลูกในเกมคู่ คือมุมตัว T เพราะเป็นการส่งลูกที่สั้นที่สุด ถ้าผู้เล่นฝึกจนมีความชำนาญและจะมีความแน่นอนมากกว่ามุมอื่นๆ ถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้จะตะปบหรือแย็ปจากจุดดังกล่าว แต่มุมตีลูกจะต้องผ่านใกล้ตัวผู้ส่งลูก ซึ่งทำให้ ช่องว่าง ที่มีแคบลง ป้องกันรักษาแนวของตนได้ง่าย การส่งลูกในเกมคู่ต้องสลับมุมบ้างเป็นครั้งคราว เพิ่มภาระกังวลให้คู่แข่งขัน มุมซ้ายและขวาที่อยู่ใกล้ออกข้าง ก็เป็นมุมที่ใช้เป็นเป้าหมายสลับกันได้ ถ้าฝึกจนชำนาญสามารถใช้ไม้อำพรางในการส่งลูกได้เพียงตวัดข้อมือเท่านั้น ทิศทางของลูกที่ส่งไปก็จะเปลี่ยนทันที การส่งลูกในเกมส์คู่ ฝ่ายเสิร์ฟลูกมักจะต้องตกเป็นฝ่ายรับแก้ไขสถานการณ์เสมอ ผู้เล่นที่ส่งลูกจะต้องรับผิดชอบคุมส่วนหน้าทั้งหมดของสนาม โดยยกหน้าไม้ให้สูง เพื่อตอบโต้รับลูกหยอด และคอยตะปบลูก ส่วนมือหลังจะคอยเก็บกวาดลูกอื่นที่ล่วงลำไปยังส่วนหลังของสนาม ถ้าผู้ส่งลูกตัดสินใจตวัดส่งลูกโด่งหลัง ฝ่ายตรงข้ามจะตอบโต้กลับมาด้วยลูกตบส่วนใหญ่ ผู้ส่งลูกกับคู่ขาจะต้องเปลี่ยนตำแหน่งตั้งรับจาก หน้ากับหลัง มาเป็นระบบคนละข้างทันที และวิถีของลูกตบส่วนมากมักจะพุ่งมาทางผู้ส่งลูกมากกว่าคู่ขา ในกรณีที่ผู้ส่งลูกเสิร์ฟโด่งไปยังมุมที่ใกล้กับเส้นข้างขนาน จุดอันตรายคือการตบขนานเส้นกลับมา ในกรณีเช่นนี้ ผู้เล่นจะต้องเปลี่ยนจุดการตั้งรับออกด้านข้างเล็กน้อย เพื่อคอยรับลูกตบดังกล่าว แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่ตบขนานเส้นข้าง อาจจะเจาะทะลวงผ่านช่องกลางทแยงสนาม ผู้เล่นที่อยู่ซีกขวาควรเป็นผู้รับมือโดยตีลูกดาดหยอด หรือดาดสุดแรงไปยังทิศทางเดียวกับลูกที่ตบข้ามมา โดยหลบมือหน้าของฝ่ายตรงข้ามที่คอยดักซ้ำดาบสอง
8.เกมเล่นคู่ต้องคอยจับจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ทั้งสองคน ซึ่งต่างมีข้อบกพร่องไม่เหมือนกัน และส่วนมากมักจะมีผู้เล่นคนหนึ่งที่มีฝีมืออ่อนกว่าอีกคนเสมอ (บ่อ)สำหรับทำคะแนนแล้ว เป้าหมายสำหรับการตีลูกก็คือให้บุกกระหน่ำไปที่คู่ต่อสู้ที่มีฝีมือด้อยที่ สุด ซึ่งกติกามิได้ห้ามไว้ และมิได้ถือว่าผิดจรรยาการแข่งขันแต่อย่างใด ที่อีกฝ่ายหนึ่งจะฉวยโอกาสจู่โจมฝ่ายที่อ่อนฝีมือกว่า
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น